ทัวร์ปากีสถาน AMAZING GRAND PAKISTAN

จำนวนการเข้าขม 112 ครั้ง
ทัวร์ปากีสถาน AMAZING GRAND PAKISTAN - Orange Travel Co.,Ltd.
รหัสทัวร์
048-9558
วันที่เดินทาง
พ.ย.66 - มี.ค.67
ช่วงเวลา
14 วัน 12 คืน
เดินทางโดย
Thai Airways (TG)

ไฮไลท์

มนเสน่ห์ปากีสถานจุดตัดของเอเชียกลาง ดินแดนประวัติศาสตร์
และธรรมชาติอันงดงาม ที่คุณต้องสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง
บินรอบเดียวเที่ยวครบเหนือจรดใต้ พร้อมบินภายใน 2 เที่ยวบิน เส้นทางสบายๆ
เน้นเก็บภาพสวยๆ พักโรงแรมดี 4-5 ดาว อาหารดี
ชมภูมิศาสตร์ของเอเชียกลาง และวิถีชีวิตอันแตกต่างของ 2 ภาค
สัมผัสความงามของธรรมชาติดั่งสวรรค์บนดิน ทางตอนเหนือบนเส้นทางคาราโครัม  
อิสลามาบัด-กิลกิต-คาริมาบัด-ฮุนซา-พาสสุ
ชมอารยะธรรมโบราณ มรดกโลก และสถาปัตกรรมเก่าแก่ของทางตอนใต้
ลาฮอร์-บาฮาวัลปูร์-ซักเกอร์-ไฮเดอราบาด-โมเฮนโจ ดาโร-การาจี

แผนการเดินทาง

16.00 น.   ทุกท่านพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ ชั้น 4 ทางเข้าที่ 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย Row H พบกับทีมงานที่จะคอยดูแลและอำนวยความสะดวก

19.00 น.   ออกเดินทางไปยัง เมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 349 ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง 10 นาที

22.10 น.   เดินทางถึง สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) ประเทศปากีสถาน จากนั้นเดินทางสู่ โรงแรมที่พัก Roomy 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) เพื่อเดินทางสู่ เมืองกิลกิต (Gilgit) ไฟลท์บินจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านวิวทิวทัศน์  ที่งดงาม (ไฟลท์บินยังไม่ระบุเวลา โดยจะเลือกไฟลท์ที่เหมาะสมที่สุดแก่การเดินทาง ปกติมักจะเป็นไฟลท์เช้า) เดินทางถึงเมืองกิลกิต (Gilgit) อยู่ในเขตปกครองพิเศษกิลกิต-บัลติสถาน Gilgit-Baltistan มีเทือกเขาที่สูงที่สุดในโลกมาอยู่รวมกัน ได้แก่ เทือกเขา Karakoram และเทือกเขาหิมาลัยตะวันตก ภูเขา Pamir อยู่ทางทิศเหนือและ Hindu Kush ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ท่ามกลางเทือกเขาที่สูงที่สุดคือ K2 (Mount Godwin-Austen สูงเป็นลำดับ 2 ของโลก 8,611 m ) และ Nanga Parbat ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และยังเคยเป็นจุดแวะสำคัญในเส้นทางสายไหม นอกเหนือจากการค้าผ้าไหม เครื่องเทศ และสินค้าอื่น ๆ แล้ว เส้นทางเครือข่ายนี้มีบทบาทสำคัญในการเป็นทางผ่านถ่ายทอดวัฒนธรรม ศาสนา และอารยธรรมมานานหลายศตวรรษ และยังเป็นหนึ่งในเส้นทางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาจากอินเดียไปสู่เอเชีย

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่เส้นทางหลวงคาราโครัม (Karakoram Highway) 8 th Wonder of the World ทางหลวง Karakoram เป็นทางหลวงระหว่างประเทศที่ปูด้วยหินที่สูงที่สุดและยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังถูกมองว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดอันดับที่ 15 ของโลกในด้านความสวยงามของทิวทัศน์อีกด้วย ทางหลวง Karakoram ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลของปากีสถานและจีนในช่วงระยะยาว เป็นเวลาเกือบยี่สิบปี (พ.ศ. 2502-2521) เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ ภูเขาสูง ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ และภูมิประเทศที่ยากลำบาก ถนนอันยิ่งใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์และการพึ่งพาอาศัยกันทางภูมิศาสตร์ระหว่างสองประเทศ – จีนและปากีสถาน – เรียกอีกอย่างว่าทางหลวงมิตรภาพ เดินทางสู่ เมืองคาริมาบัด (Karimabad) หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า เมืองบัลติท (Baltit) ตั้งแห่งหุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) เป็นหุบเขาในเมืองกิลกิต (Gilgit Valle) ซึ่งอยู่ใน เขตปกครองพิเศษกิลกิต-บาลิสถาน (Gilgit- Baltistan) ดินแดนใต้ การปกครองของรัฐบาลปากีสถาน ซึ่งชาวบ้านในเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายอิสมาอิล

ระหว่างทางนำท่านสู่จุดชมวิวยอดเขาราคาโปชิ (Rakaposhi Viewpoint) สัมผัสความสวยงามของเทือกเขาคาราโปชิที่ปกคลุมด้วยหิมะอย่างใกล้ชิด ยอดเขาแห่งนี้มีความสูง 7,790 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลและถูกจัดอันดับความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านชมพระอาทิตย์ยามเย็นที่หุบเขาดุยเกอร์  (Dukhair Valley) ดื่มด่ำทิวทัศน์สุดอลังการ ท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนสูงตระหง่านกว่า 6000 เมตร ของยอดเขาราคาโพชิ (Rakaposhi) 7788 เมตร, ยอดเขาดิรันพีค (Diran Peak), ยอดเขาโกลเด้นพีค (Gloden Peak), ยอดเขาอัลเทอร์พีค (Ulter Peak), ยอดเขาฮุนซ่าพีค (Hunza Peak), ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ (Lady Finger) ได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าโรงแรมที่พัก

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

โรงแรมที่พัก Hard Rock  Resort 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม ป้อมปราการบัลติท (Baltit Fort) ตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซาใกล้เมืองคาริมาบัดทางตอนเหนือของปากีสถาน ป้อมนี้สร้างมาเมื่อกว่าอายุกว่า 700 ปี ป้อมแห่งนี้เดิมเป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์ผู้ครองฮุนซ่าส  มัยยังเป็นนครรัฐก่อนและได้มีการสร้างใหม่และมีการเปลี่ยนแปลง ตลอดหลายศตวรรษในศตวรรษที่ 16 เจ้าชายท้องถิ่นแต่งงานกับเจ้าหญิงจาก Baltistan ที่นำนายช่างฝีมือบัลติในการบูรณะอาคารที่เป็น ส่วนหนึ่งของสินสอดของเธอรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นข้อบ่งชี้ที่ ชัดเจนจากอิทธิพลของพุทธศาสนาในทิเบต และ Baltistan ป้อมแห่งนี้ร้างในปี ค.ศ. 1945 และย้ายไปอยู่ที่พระราชวังใหม่ลงเนินเขา ป้อมเริ่มมีการพังและสลายตัวอาจต้องตกอยู่ในลักษณะซากปรักหักพัง ภายหลังจึงได้มีการสำรวจ โดย Royal Geographical Society จากลอนดอน และได้รับการสนับสนุนจาก the Aga Khan Trust for Culture Historic Cities Support Programme บูรณะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1996 และปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาฮอปเปอร์ (Hopper Valley)เป็นส่วนที่สวยงามของหุบเขา Nagar ชมธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่จากการทับถมของหิมะอย่างยาวนาน จนกลายเป็นหินได้มีบันทึกว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นธานน้ำแข็งที่เคลื่อนไหวเร็วที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านชม การแกะสลักหินนาการ์ (Nagar Rock Carving) จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พัก

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

โรงแรมที่พักFamree Hotel & Resort  5* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม สะพานแขวนฮุซซานี (Hussaini Suspension Bridge) สะพานแขวนมีอายุนับร้อยปี ถูกจัดให้เป็นสถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก ซึ่งมีฉากหลังเป็นภาพของหุบเขาพาสสุ มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านพาสสุ (Passu) หมู่บ้านเล็ก ๆ ข้างแม่น้ำฮุนซา ตั้งอยู่บนเส้นทางสายคาราโครัมระหว่างทางไปเทือกเขาหิมาลัย ทางตอนใต้ของหมู่บ้านมีธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier) ซึ่งการเดินทางไปนั้นจะเป็นเส้นทาง Trekking ระยะสั้นประมาณ 2 กิโลเมตร ทางด้านหลังของธารน้ำแข็งจะมองเห็นยอดเขา Passu Cones และธารน้ำแข็งพาสสุ ที่ไหลไปเชื่อมกับธารน้ำแข็ง Batura

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านสู่ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 2010 (Attabad Disaster) ลงมากั้นแม่น้ำฮุนซ่าจนกลายเป็นทะเลสาบสีเทอควอยส์แบบนี้ซึ่งทะเลสาบนี้มีความยาว 21 กิโลเมตร และความลึก 100 เมตร รอบๆทะเลสาบบางส่วนจะเห็นดินที่ถล่มลงมาจนกลายเป็นเขื่อนกั้นทะเลสาบ

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

โรงแรมที่พัก Luxus Atabad Lake 5* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านกลับสู่เมืองกิลกิต (Gilgit) โดยจะใช้เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ ระหว่างทางชมวิวภูเขาที่สวยงามตลอดทาง แวะชม หุบเขานาลตาร์ (Naltar Valley)เป็นพื้นที่ป่าที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ภูเขาอันน่าทึ่ง เป็นหุบเขาที่มีความสวยงาม มีทั้งทุ่งหญ้า มีทั้งทุ่งต้นสน สกีและมีทะเลสาบสามแห่ง ได้แก่ ทะเลสาบ Strangi ทะเลสาบสีน้ำเงิน และทะเลสาบ Bodlok ในช่วงฤดูหนาวคนจะนิยมมาเล่นสกีกันที่นี่

เที่ยง   รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านชม พระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha)เป็นภาพแกะสลักในหินแสดงภาพพระโคตมพุทธเจ้า มีความสูง 50 ft แกะสลักในข้างผาของหน้าผาในการ์กานาลา คาดว่าอายุราวคริสต์ศตวรรษที่ 7 พระพุทธรูปยืนถูกแกะสลักไว้บนหน้าผาในหุบเขาคาร์กาห์ (Kargah Valley) ถูกค้นพบในช่วงปี ค.ศ.1938-1939 ห่างจากองค์พระไป ประมาณ 400 เมตร ยังค้นพบเจดีย์ 3 องค์

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

โรงแรมที่พัก Avari Hotel 1* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางไปยัง สนามบินกิลกิต (Gilgit Airport) เพื่อเดินทางสู่ เมืองอิสลามาบัด (Islamabad) (ไฟลท์ยังไม่ระบุเวลา) ใช้เวลาในการเดินทางราว 1 ชั่วโมง เดินทางถึงเมืองอิสลามาบัด นำท่านชม อนุสาวรีย์แห่งชาติ Pakistan Monument และพิพิธภัณฑ์มรดกที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของ Shakarparian Hills ใน อิสลามาบาด, ประเทศปากีสถาน อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงความสามัคคีของชาวปากีสถาน เพื่อเชิดชูวีรกรรมของวีรุบุรุษชาวปากีสถานผู้พลีชีพ "วันนี้" ของพวกเขาเพื่อ "พรุ่งนี้" ที่ดีกว่า ด้วยระดับความสูงที่ตั้งของอนุสาวรีย์นี้ทำให้สามารถมองเห็นอนุสาวรีย์ได้จากทั่วทั้ง Islamabad-Rawalpindi metropolitan area และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอิสลามาบัด

เที่ยง   รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านชม มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ถูกสร้างโดยกษัตริย์ Faisal bin Abdul-Aziz แห่งซาอุดิอาระเบีย และออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ผู้ซึ่งได้รับรางวัลสถาปัตยกรรม Agha Khan Award ซึ่งลักษณะของมัสยิดแห่งนี้ถูกออกแบบให้คล้ายกับเต็นท์ของชาว Bedouin ในทะเลทราย มัสยิดแห่งนี้มีขนาดใหญ่โดยสามารถบรรจุผู้เข้าร่วมภายในโดมได้ถึง 10,000 คน นำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งอิสระให้ท่านช้อปปิ้งชมวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นตามอัธยาศัย

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

โรงแรมที่พัก Hill View Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลาฮอร์ (Lahore) เป็นเมืองหลวงและมหานครที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ โดยแม่น้ำราวีเป็นสายน้ำหลักหล่อเลี้ยง เป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของภูมิภาคเอเชียใต้ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นปัญจาบ ใกล้กับชายแดนรัฐปัญจาบของอินเดีย ทั้งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาคปัญจาบ และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสรีนิยมก้าวหน้าและเป็นสากลมากที่สุดในปากีสถาน  และเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโมกุลอันยิ่งใหญ่ ที่มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าอักบาร์มหาราช จักรพรรดิชาห์ชะฮัน และออรังเซพผู้มั่งคั่งซึ่งต่างเคยพำนักอยู่ที่นี่เดิมเคยอยู่และเคยภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเข้าชม มัสยิดบัดชาอิ (Badshahi Mosque) ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหน้าเป็นลานกว้างที่จุคนได้ราวห้าหมื่นคนและมีหอสวดมนต์ที่จุคนได้ราวสองพันคน มัสยิดแห่งนี้เคยถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 100 ปี และได้รับการบูรณะกลับมาใหม่ในปี ค.ศ.1960

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

โรงแรมที่พัก Four Points Sheraton Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม ป้อมลาฮอร์ (Lahore Fortress) ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี 1981 ป้อมลาฮอร์เป็นพระราชวังโบราณสร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์ (Akbar The Great) ในระหว่างปี 2099-2149 เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถเห็นความแตกต่างของสถาปัตยกรรมโมกุล ในแต่ละยุคสมัยของผู้ปกครองที่ได้สร้างต่อเติมมาเรื่อย ๆ จากนั้นนำท่านชมประตูเดลี (Delhi Gate) เป็นประตูประวัติศาสตร์ 1 ใน 6 ประตูของกำแพงเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน ประตูนิวเดลีและชาฮีฮัมมัมที่อยู่ติดกันได้รับการบูรณะในปี 2558 โดย Aga Khan Cultural Service ประเทศปากีสถาน

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านสู่บริเวณชายแดนวากาห์ (Wagha Border) ด่านพรมแดนกั้นระหว่างเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน และเมืองอัตตริ ประเทศอินเดีย ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “กำแพงเบอร์ลินแห่งชมพูทวีป” นำท่านชมพิธีสวนสนามปิดด่านอินเดีย-ปากีสถาน (Wagha-Attari Border Ceremony) ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกช่วงเย็นประมาณ 16.30 น. ของทุกวัน จนเป็นสัญลักษณ์แห่งการให้เกียรติ “มิตรและศัตรู” ของทั้งสองประเทศ พิธีการนี้จึงเป็นเหมือนสนามประลองขนาดย่อมที่มีไว้เพื่อประชันลีลาและความสง่างามระหว่างกัน โดยทหารปากีสถานแต่งกายในชุดทหารสีดำและสวมหมวกทรงคล้ายพัดสีดำ ส่วนทหารอินเดียจะอยู่ในชุดทหารสีน้ำตาล สวมหมวกทรงคล้ายพัดสีแดง

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

โรงแรมที่พัก Four Points Sheraton Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาฮาวัลปูร์ (Bahawalpul) เมืองใหญ่อันดับที่ 12 ของปากีสถานและเป็นเมืองสำคัญทางตอนใต้ของแคว้นปัญจาบ มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางวัฒนธรรมและสถาบันการศึกษา ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของรัฐพหวัลปูร์ในอดีต ซึ่งก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีบาฮาวัลข่าน อับบาซีที่ 2 สิ่งนี้ยังคงเป็นรัฐอิสระมานานกว่า 200 ปี ในช่วงการปกครองของมหาเศรษฐีคนสุดท้าย เซอร์ ซาดิก มูฮัมหมัด ข่าน อับบาซีที่ 5 รัฐได้เข้าร่วมกับปากีสถานเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2490 และรวมเข้ากับรัฐปัญจาบเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2497 ในสมัยโบราณ Bahawalpur เป็นเมืองแห่งพระราชวัง มีพระราชวังที่สวยงามหลายแห่งเช่น Noor Mahal, Gulzar Mahal, Darbar Mahal และ Sadiq Garh Palace และทั้งนี้ตั้งอยู่ที่ชายขอบของทะเลทราย Cholistan มีอุทยานแห่งชาติ Lal Suhanra

เที่ยง   รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่าน ขี่อูฐชมป้อมเดราวาร์ (Derawar Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่แห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 9 โดย Rai Jajja Bhatti ผู้ปกครองเผ่าฮินดูแห่งตระกูล Bhatti เพื่อเป็นเครื่องบรรณาการให้กับกษัตริย์ Jaisalmer และ Bahawalpur โดยตอนแรกมีชื่อว่าป้อม “เดรา ราวัล” ต่อมาถูกเรียกว่า “เดรา ราวาร์” และรวบคำเป็น “เดราวาร์” จนถึงปัจจุบัน ต่อมาในศตวรรษที่ 18 ป้อมเดราวาร์ถูกยึดโดยกลุ่มคนมุสลิมและมีการสร้างในรูปแบบใหม่จนมีหน้าตาเหมือนในปัจจุบันนี้ โดยกำแพงป้อมมีความยาวประมาณ 1,500 เมตร และความสูงประมาณ 30 เมตร มีลักษณะเป็นหอคอยโค้งคล้ายทรงกระบอกสร้างขึ้นจากก้อนอิฐ มีจำนวนทั้งหมด 40 ป้อม ตั้งเรียงกัน

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

โรงแรมที่พัก Hotel One 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซักเกอร์ (Sukkur)เป็นเมืองในจังหวัดสินธุของปากีสถาน ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสินธุ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุเป็นเมืองเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินทผาลัมที่มีชื่อเสียงมานับร้อยปี ชื่อ Sukkur อาจมาจากคำภาษาอาหรับที่แปลว่า "น้ำตาล" ชัคการ์ เดิมเมืองนี้มีทุ่งอ้อยที่เคยอุดมสมบูรณ์ในภูมิภาคนี้ในอดีต

เที่ยง   รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านชม เขื่อนกั้นน้ำซักเกอร์ (Sukkur Barrage) เป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำสินธุ สร้างขึ้นระหว่างการปกครองของอังกฤษระหว่างปี พ.ศ. 2466 ถึง พ.ศ. 2475 และมีชื่อว่า Lloyd Barrage Sukkur Barrage เป็นความภาคภูมิใจของระบบชลประทานของปากีสถาน เนื่องจากเป็นเครือข่ายชลประทานเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขื่อนกั้นน้ำ Sukkur เริ่มก่อสร้างในปี 2466 และเริ่มดำเนินการในปี 2475 จะได้รับการฟื้นฟูและปรับปรุงให้ทันสมัยตามที่รัฐบาลสินธ์โดยได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารโลก

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

โรงแรมที่พัก Hotel One 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่เมืองโมเฮนโจ ดาโร (Mohenjo-Daro) คืออารยะธรรมที่สาบสูญในอินเดีย ถูกสร้างในศตวรรษที่ 26 ก่อนคริสตกาล โดยเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุโบราณ ที่รู้จักกันในชื่อ อารยธรรมฮารัปปา ซึ่งพัฒนาประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงสูงสุด อารยธรรมสินธุขยายไปไกลทั่วปากีสถานและอินเดีย โดยฝั่งตะวันตกถึงชายแดนประเทศอิหร่าน ทางใต้ถึงรัฐคุชราตของอินเดีย และทางเหนือถึงด่านนอกที่แบกเตรีย ที่มีใจกลางเมืองที่สำคัญอยู่ที่ฮารัปปา, โมเฮนโจ-ดาโร, โลธาล, คาลิบันกาน, โฑลาวีระ (Dholavira) และราคิการ์ฮี (Rakhigarhi) โมเฮนโจ-ดาโรเป็นเมืองที่พัฒนาที่สุดในเวลานั้น

เที่ยง   รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านชมโบราณสถานมรดกโลกเมืองโมเฮนโจ ดาโร  (Mohenjo-Daro) เคยเป็นหนึ่งในมหานครที่เก่าแก่ที่สุดในยุคสัมฤทธิ์ (Bronze age) และหนึ่งในเมืองยุคแรกสุดของโลก คู่กับอารยธรรมอียิปต์โบราณ, เมโสโปเตเมีย, ไมนอส และการัล และโบราณสถานแห่งนี้ มีการวางแผนผังเมืองที่เป็นระเบียบและมีความทันสมัยมีระบบระเบียบ มีระบบท่อระบายน้ำ มีสระขนาดใหญ่ภายใต้ตึก 3 ชั้น มีสระอาบน้ำสาธารณะ เมื่ออารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุสิ้นสุดลง โมเฮนโจ-ดาโร ก็ถูกทิ้งไปในศตวรรษที่ 19 ก่อนคริสตกาล จนกระทั่งคริสทศวรรษที่ 1920 และกลายเป็นมรดกโลกของยูเนสโกใน ค.ศ. 1980

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

โรงแรมที่พัก Indus Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่เมืองไฮเดอราบาด (HYDERABAD)ไฮเดอราบาด เป็นนครในแคว้นสินธ์ ประเทศปากีสถาน เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของแคว้น และมีประชากรมากเป็นอันดับ 8 ของปากีสถาน เมืองสร้างโดยเมียน กูลัม ชาห์ กัลโฮรา แห่งราชวงศ์กัลโฮรา เมื่อปี ค.ศ.1768 ได้เป็นเมืองหลวงของแคว้นสินธ์จนกระทั่งตกเป็นของอังกฤษในปี 1843 จึงได้เปลี่ยนเมืองหลวงมาเป็นการาจี นำท่านชม มัสยิดชาร์ห จาฮาน (Shah Jahan Mosque) สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1647 และเสร็จสิ้นในปีคริสต์ศักราช 1659 ในช่วงรัชสมัยของราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างเอเชียกลางและอิหร่าน ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกที่มีความละเอียดที่สุดในเอเชียใต้ จากนั้นนำท่านชม สถาปัตยกรรมของTombs of Talpurs มีลักษณะพิเศษคล้ายคอมเพล็กซ์ เป็นของผู้ปกครอง Talpur Mirs of สินธุซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2327 ถึง พ.ศ. 2386 เที่ยง

รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ เมืองการาจี (Karachi) ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศติดกับทะเลอาหรับ ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของปากีสถาน และยังคงเป็นเมืองหลักของแคว้นสินธ์ นครนี้เป็นศูนย์กลางทางการเงินและอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ เมืองการาจียังเป็นนครที่มีความเป็นสากล ความหลากหลายทางภาษา เชื้อชาติ และศาสนามากที่สุดของประเทศปากีสถานและเป็นหนึ่งในนครที่มีเสรีภาพทางสังคมและโลกิยนิยมมากที่สุดของประเทศการาจีทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการขนส่ง และมีท่าเรือใหญ่สุดสองแห่งของประเทศ คือ ท่าเรือการาจีกับท่าเรือกอซิม

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

โรงแรมที่พัก Avari tower 4* หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม พระราชวังโมฮัตตา (Mohatta Palace) เป็นพระราชวังขนาดกลางที่มีจำนวนสามชั้นสร้างด้วยสถาปัตยกรรมในแบบราชาสถานที่มีความสวยงามและมีมนต์เสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง โดยกลายมาเป็นสถานที่ซึ่งมีความเก่าแก่และสวยงามของเมืองการาจีที่  จากนั้นนำท่านชม Mazar-e-Quaid หรือที่รู้จักในนามสุสานแห่งชาติ เป็นสถานที่ฝังศพของบรรดาผู้นำอันยิ่งใหญ่ของประเทศปากีสถาน ประกอบด้วย Muhammad Ali Jinnah (ผู้ก่อตั้งประเทศปากีสถาน) Māder-e Millat (แม่แห่งชาติ ผู้เป็นน้องสาวของผู้ก่อตั้งประเทศ) และ Liaquat Ali Khan (นายกรัฐมนตรีคนแรกของปากีสถาน) สุสานถูกสร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1960 และเสร็จสิ้นในปีคริสต์ศักราช 1970 ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modernist Style) โดยตัวอาคารสุสานถูกสร้างโดยใช้หินอ่อนสีขาว

เที่ยง   รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านสู่ Jodia Bazaar ชมสีสันตลาดพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของเมืองการาจี มีสินค้าหลายหลาย เช่น ถั่ว ผลไม้แห้ง อื่นๆๆมากมายราคาย่อมเยาว์ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งของฝากตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ จากนั้นบินภายในสู่กรุงอิสลามาบัด

**อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย**

23.20 น.   ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยการบินไทย เที่ยวบินที่ TG

06.25 น.   เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดีภาพและความประทับใจ

แผนที่

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ
15 ธ.ค. 66 - 28 ธ.ค. 6699,999 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
22 ธ.ค. 66 - 04 ม.ค. 67115,980 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
19 ม.ค. 67 - 01 ก.พ. 6799,999 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
16 ก.พ. 67 - 29 ก.พ. 6799,999 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
23 ก.พ. 67 - 07 มี.ค. 6799,999 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
01 มี.ค. 67 - 14 มี.ค. 6799,999 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
15 มี.ค. 67 - 28 มี.ค. 6799,999 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
22 มี.ค. 67 - 04 เม.ย. 6799,999 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
29 มี.ค. 67 - 11 เม.ย. 67115,980 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
05 เม.ย. 67 - 18 เม.ย. 67120,660 บาท23,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง

เงื่อนไข

อัตราค่าบริการนี้รวม 

  1. บัตรโดยสารสายการบินไทย รวมค่าภาษีและธรรมเนียมน้ำมันชั้นประหยัด ในทุกเส้นทางที่ระบุไว้
  2. ค่าวีซ่าปากีสถานสำหรับหนังสือเดินทางไทย
  3. ค่าห้องพักตามโรงแรมที่ระบุไว้หรือเทียบเท่า
  4. ค่าพาหนะเดินทางเป็น Toyota Coaster ขนาด 25 ที่นั่ง
  5. ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม
  6. ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุในโปรแกรม
  7. ค่าประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท
  8. ค่าบริการนำทัวร์โดยค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นผู้เชี่ยวชาญและหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม  

  1. ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง
  2. ภาษีต่าง ๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ฯลฯ
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์ ฯลฯ และที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  4. ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือรายการ
  5. ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน
  6. ค่าประกันสุขภาพกรณีเจ็บป่วยระหว่างเดินทางท่องเที่ยว
  7. ค่าทิปพนักงานขับรถ-ทิปหัวหน้าทัวร์-ทิปไกด์ท้องถิ่น (150USD/คน/ทริป) ชำระพร้อมค่าทัวร์งวดสุดท้าย

เงื่อนไขการให้บริการ

  1. ในการจองครั้งแรกมัดจำท่านละ 40,000 บาท ชำระภายใน 3 วันนับจากวันจองทัวร์  ส่วนที่เหลือทั้งหมดชำระก่อนเดินทาง 30 วัน
  2. เนื่องจากราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่น ตั๋วเครื่องบินต้องเดินทางตามวันที่ ที่ระบุบนหน้าตั๋วเท่านั้น จึงไม่สามารถยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการเดินทางใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ากรณียกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน  ทั้งหมดหรือบางส่วนให้กับท่าน
  3. เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่งหรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือเข้าประเทศที่ระบุในรายการเดินทาง บริษัทฯของสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
  4. การซื้อตั๋วต่อเครื่องในประเทศ (ไทย) จะไม่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัททัวร์กรณีที่เที่ยวบินต่างประเทศเกิดการดีเลย์ หรือล่าช้า จากกำหนดเดิม

หมายเหตุ

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 10 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืนในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย จนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณีที่สูญหายสูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ฯลฯ
** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
99,999 บาท
รหัส 048-9558 ทัวร์ปากีสถาน AMAZING GRAND PAKISTAN
ราคาเริ่มต้น 99,999 บาท
เดินทางช่วง พ.ย.66 - มี.ค.67
เดินทางโดย Thai Airways (TG)
ดูเพิ่มเติม https://tour.sesuntour.com/tour.php?tour_id=2062

ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/036/048-9558.pdf

สนใจติดต่อ Orange Travel Co.,Ltd.
เลขที่ใบอนุญาต 21/00537
โทร 092-989-2962 ,062-229-6991
LINE ID @SesunTourThailand
อีเมล jane@sesuntour.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
ติดต่อสำนักงาน
Orange Travel Co.,Ltd.
เลขที่ใบอนุญาต 21/00537

Chiang Mai Head Office : 345/134 Village No.4 Maehea Sub-District, Mueang Chiang Mai District , Chiang Mai Province Bangkok Office : 15/57 Ramkhamhaeng Rd., Huamark ,Bangkapi Bangkok Province

จันทร์-ศุกร์ 9.00 - 18.00 น
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา